Good+10

.


พระสูตร ลำดับที่ ๖ - ๑๐
จาก ๑๐ พระสูตร
ของความสำคัญที่ชาวพุทธต้องศึกษา
แต่คำสอนจากพระพุทธเจ้าเท่านั้น
===========================================
คำนำ
ผ่านมา ๒,๕๐๐ กว่าปี
คำสอนทางพระพุทธศาสนาเกิดความหลากหลายมากขึ้น
มีสำนักต่างๆ มากมาย ซึ่งแต่ละหมู่คณะก็มีความเห็นของตน
หามาตรฐานไม่ได้ แม้จะกล่าวในเรื่องเดียวกัน
ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่สมบูรณ์
แล้วเราควรเชื่อและปฏิบัติตามใคร ?
ลองพิจารณาหาคำตอบง่ายๆ ได้จาก ๑๐ พระสูตร
ซึ่งพระตถาคตทรงเตือนเอาไว้
แล้วตรัสบอกวิธีป้องกันและแก้ไขเหตุเสื่อมแห่งธรรมเหล่านี้.
ขอเชิญมาตอบตัวเองกันเถอะว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง ?
ที่พุทธบริษัทจะมีมาตรฐานเพียงหนึ่งเดียว
คือ “พุทธวจน” ธรรมวินัย จากองค์พระสังฆบิดา
อันวิญญูชนพึงปฏิบัติและรู้ตามได้เฉพาะตน ดังนี้.
.

๖.
ทรงห้ามบัญญัติเพิ่มหรือตัดทอนสิ่งที่บัญญัติไว้
===========================================
(บาลี) มหา. ที. ๑๐/๙๐/๗๐.
.
.. ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุทั้งหลาย
จักไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่เคยบัญญัติ
จักไม่เพิกถอนสิ่งที่บัญญัติไว้แล้ว,
จักสมาทานศึกษาในสิกขาบทที่บัญญัติไว้แล้ว
อย่างเคร่งครัดอยู่เพียงใด,
ความเจริญก็เป็นสิ่งที่ภิกษุทั้งหลายหวังได้
ไม่มีความเสื่อมเลย อยู่เพียงนั้น.
.
.
.
๗.
สำนึกเสมอว่าตนเองเป็นเพียงผู้เดินตามพระองค์เท่านั้น
ถึงแม้จะเป็นอรหันต์ผู้เลิศทางปัญญาก็ตาม
===========================================
(บาลี) ขนฺธ. สํ. ๑๗/๘๒/๑๒๖.
.
.. ภิกษุทั้งหลาย ! ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ
ได้ทำมรรคที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น
ได้ทำมรรคที่ยังไม่มีใครรู้ให้มีคนรู้
ได้ทำมรรคที่ยังไม่มีใครกล่าวให้เป็นมรรคที่กล่าวกันแล้ว
ตถาคตเป็นผู้รู้มรรค (มคฺคญฺญู)
เป็นผู้รู้แจ้งมรรค (มคฺควิทู)
เป็นผู้ฉลาดในมรรค (มคฺคโกวิโท).
ภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนสาวกทั้งหลายในกาลนี้
เป็นผู้เดินตามมรรค (มคฺคานุคา) เป็นผู้ตามมาในภายหลัง.
.. ภิกษุทั้งหลาย ! นี้แล เป็นความผิดแผกแตกต่างกัน
เป็นความมุ่งหมายที่แตกต่างกัน
เป็นเครื่องกระทำให้แตกต่างกัน
ระหว่างตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ
กับภิกษุผู้ปัญญาวิมุตติ.
.
.
.
๘.
ตรัสไว้ว่าให้ทรงจำบทพยัญชนะและคำอธิบายอย่างถูกต้อง
พร้อมขยันถ่ายทอดบอกสอนกันต่อไป
===========================================
(บาลี) จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๙๗/๑๖๐.
.
.. ภิกษุทั้งหลาย ! พวกภิกษุในธรรมวินัยนี้
เล่าเรียนสูตรอันถือกันมาถูก ด้วยบทพยัญชนะที่ใช้กันถูก
ความหมายแห่งบทพยัญชนะที่ใช้กันก็ถูก
ย่อมมีนัยอันถูกต้องเช่นนั้น.
ภิกษุทั้งหลาย ! นี่เป็น มูลกรณีที่หนึ่ง
ซึ่งทำให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้ ไม่เลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป...
...
.. ภิกษุทั้งหลาย ! พวกภิกษุเหล่าใด เป็นพหุสูต คล่องแคล่ว
ในหลักพระพุทธวจน
ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท)
พวกภิกษุเหล่านั้น เอาใจใส่ บอกสอน
เนื้อความแห่งสูตรทั้งหลายแก่คนอื่นๆ,
เมื่อท่านเหล่านั้นล่วงลับไป
สูตรทั้งหลายก็ไม่ขาดผู้เป็นมูลราก (อาจารย์)
มีที่อาศัยสืบกันไป.
ภิกษุทั้งหลาย ! นี่เป็น มูลกรณีที่สาม
ซึ่งทำให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้ไม่เลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป...
.
*** ในที่นี้ยกมา ๒ นัยยะ จาก ๔ นัยยะ ของมูลเหตุสี่ประการ
ที่ทำให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้ไม่เลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป
.
.
.
๙.
ทรงบอกวิธีแก้ไขความผิดเพี้ยนในคำสอน
===========================================
(บาลี) มหา. ที. ๑๐/๑๔๔/๑๑๓-๖.
.
.. ๑. (หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้กล่าวอย่างนี้ว่า
ผู้มีอายุ ! ข้าพเจ้าได้สดับรับมา
เฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคว่า
“นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดา”...
.. ๒. (หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้กล่าวอย่างนี้ว่า
ในอาวาสชื่อโน้น มีสงฆ์อยู่พร้อมด้วยพระเถระ
พร้อมด้วยปาโมกข์ ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะหน้าสงฆ์นั้นว่า
“นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดา”...
.. ๓. (หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้กล่าวอย่างนี้ว่า
ในอาวาสชื่อโน้น มีภิกษุผู้เป็นเถระอยู่จำนวนมาก เป็นพหุสูต
เรียนคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา
ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะหน้าพระเถระเหล่านั้นว่า
“นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดา”...
.. ๔. (หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้กล่าวอย่างนี้ว่า
ในอาวาสชื่อโน้น มีภิกษุผู้เป็นเถระอยู่รูปหนึ่ง เป็นพหุสูต
เรียนคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา
ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะหน้าพระเถระรูปนั้นว่า
“นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระศาสดา”...
.. เธอทั้งหลายยังไม่พึงชื่นชม
ยังไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของผู้นั้น
พึงเรียนบทและพยัญชนะเหล่านั้นให้ดี
แล้วพึงสอบสวนลงในพระสูตร เทียบเคียงดูในวินัย
.. ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ไม่ได้
เทียบเข้าในวินัยก็ไม่ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า
“นี้มิใช่พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน
และภิกษุนี้รับมาผิด” เธอทั้งหลาย พึงทิ้งคำนั้นเสีย
.. ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ได้
เทียบเข้าในวินัยก็ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า
“นี้เป็นพระดำรัส ของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นแน่นอน
และภิกษุนั้นรับมาด้วยดี”
เธอทั้งหลาย พึงจำมหาปเทส... นี้ไว้.
.
.
.
๑๐.
ทรงตรัสแก่พระอานนท์
ให้ใช้ธรรมวินัยที่ตรัสไว้เป็นศาสดาแทนต่อไป
===========================================
(บาลี) มหา. ที. ๑๐/๑๗๘/๑๔๑.
(บาลี) มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๑๗/๗๔๐.
(บาลี) ม. ม. ๑๓/๔๒๗/๔๖๓.
.
.. อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า
‘ธรรมวินัยของพวกเรามีพระศาสดา
ล่วงลับไปเสียแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดา’ ดังนี้.
อานนท์ ! พวกเธออย่าคิดอย่างนั้น.
อานนท์ ! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้ว
แก่พวกเธอทั้งหลาย
ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย
โดยกาลล่วงไปแห่งเรา.
.
.. อานนท์ ! ในกาลบัดนี้ก็ดี ในกาลล่วงไปแห่งเราก็ดี
ใครก็ตาม จักต้องมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ
ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ;
มีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ
ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ เป็นอยู่.
อานนท์ ! ภิกษุพวกใด เป็นผู้ใคร่ในสิกขา,
ภิกษุพวกนั้น จักเป็นผู้อยู่ในสถานะอันเลิศที่สุดแล.
.
.. อานนท์ ! ความขาดสูญแห่งกัลยาณวัตรนี้
มีในยุคแห่งบุรุษใด บุรุษนั้นชื่อว่า
เป็นบุรุษคนสุดท้ายแห่งบุรุษทั้งหลาย....
เราขอกล่าวย้ำกะเธอว่า...
เธอทั้งหลายอย่าเป็นบุรุษพวกสุดท้ายของเราเลย."
.
.
.


พุทธวจนสถาบัน
วัดนาป่าพง
พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล
เผยแผ่โดยใช้ พุทธวจน ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอง
และที่ทรงรับรองไว้ เท่านั้น
ธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศไว้แล้ว
เปิดเผยจึงรุ่งเรือง ปิดบังไม่รุ่งเรือง
เปิดธรรมที่ถูกปิด อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ..
ยิ่งเปิดเผย ยิ่งรุ่งเรือง
ไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม ..
ถึงความเจริญอย่างเดียว ไม่ถึงความเสื่อม
ร่วมกันมุ่งมั่นศึกษา ปฏิบัติ เผยแผ่
คำของตถาคต (พระพุทธเจ้า)
ชมถ่ายทอดสด ดูวิดีโอ ฟัง อ่าน ดาวน์โหลด
พุทธวจน ธรรมวินัยจากพุทธโอษฐ์
ได้ที่ WATNAPAHPONG.. http://www.watnapp.com
หรือ.. https://media.watnapahpong.org
.


Visitors: 621,474